งูกินหาง
อุปกรณ์ล่นในเทศกาลสำคัญ เช่น สงกรานต์ ส่วนเด็ก ๆ จะเล่นทุกโอกาสที่เด็ก ๆ
รวมกันซึ่งมีวิธีการเล่นดังนี้
เริ่มเล่นเมื่อผู้เล่นพร้อมกันแล้วจะเริ่มด้วยการเสี่ยงถ้าใครแพ้คนนั้น ก็จะออกเป็นพ่องู
ส่วนผู้ชนะก็จะได้เล่นเป็นแม่งูและลูกงู ส่วนมากในกลุ่มผู้เล่นจะเลือกเอาคนที่มีร่างกายแข็งแรง
หรือรูปร่างใหญ่ในทีมเป็นแม่งู เพื่อเอาไว้ป้องกันลูกงู
เมื่อได้ผู้เล่นแล้วพ่องูและแม่งูจะยืนหันหน้าเข้าหากัน ส่วนแม่งูจะมีลูกงูกอดเอวต่อแถวไป
ข้างหลังแล้วพ่องูจะเริ่มถามแม่งูว่า
พ่องู "แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน"
แม่งู "กินน้ำบ่อโสกโยกไปโยกมา" พร้อมแสดงอาการส่ายตัวไปมา
พ่องู "แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน"
แม่งู "กินน้ำบ่อหินบินไปบินมา" พร้อมแสดงอาการบินไปบินมา
พ่องู "แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน"
แม่งู "กินน้ำบ่อทรายย้ายไปย้ายมา" พร้อมแสดงอาการส่ายตัวไปมา
พ่องู "กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัว"
เมื่อพ่องูกล่าวเสร็จพ่องูจะเริ่มไล่จับลูกงูที่กอดเอวแม่งูอยู่ส่วนแม่งูก็จะพยายามป้องกัน
ไม่ให้พ่องูไปแย่งลูกงูได้ เมื่อพ่องูจับลูกงูคนใดได้ลูกงูก็จะออกมายืนอยู่ต่างหากเพื่อรอเล่นรอบต่อไป
ส่วนพ่องูจะพยายามแย่งลูกงูให้ได้หมดทุกตัวจึงจะถือว่าจบการเล่นรอบหนึ่ง
เมื่อพ่องูจับลูกงูได้ทุกตัวแล้วก็จะเริ่มเล่นใหม่ โดยพ่องูคนเดิมจะกลับไปเป็นแม่งูในรอบต่อไป
http://www.prapayneethai.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%87
มอญซ่อนผ้า
(การเล่นในสมัยอยุธยา)การเล่นมอญซ่อนผ้า เป็นการเล่นที่ง่าย
ไม่มีกฎกติกามากมายนักมักเป็น
การละเล่นของหนุ่มสาว โดยมากจะซ่อน
เป็นคู่ ๆ เป็นการเจาะจงตัวผู้ซ่อน
นิยมเล่นในงานเทศกาลต่าง ๆ
โดยเฉพาะเทศกาลตรุษสงกรานต์
วัตถุประสงค์
- เพื่อการคบค้าสมาคมกับบุคคลอื่น โดยเฉพาะเพื่อนต่างเพศ
- เพื่อเป็นการออกกำลังกายกลางแจ้ง
- เพื่อฝึกไหวพริบ
ผ้าขาวม้ามัดปลายให้เป็นปมใหญ่ ๆ เรียกว่า ผ้าตีหรือลูกตูม
จำนวนของลูกตูม จะมี 1 ใน 3 ของจำนวนผู้เล่นหรือแล้วแต่จะตกลงกัน
ผู้เล่น ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น แต่นิยมให้มีผู้เล่นมากกว่า 8 คน
เป็นชายและหญิงฝ่ายละครึ่ง
หนังสืออ้างอิง
http://www.baanjomyut.com/library_2/extension-2/thai_play/05.html
ม้าก้านกล้วย
ม้าก้านกล้วย
ความฉลาดของคนไทย แม้ก้านกล้วยก็นำมาทำเป็นของเล่นเด็กได้
เมื่อตั้งบ้านเรือนเป็นกลุ่ม
เป็นหมู่บ้านก็ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม
ใช้และรักษาธรรมชาติ
และสภาพแวดล้อมอย่างชาญฉลาด
เด็กไทยก็ดัดแปลงสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมาทำเป็น
ของเล่นได้อย่างเหมาะสมและสนุกสนาน
ม้าก้านกล้วย เป็นของเล่นที่เด็กผู้ชายที่อยู่ในวัยซุกซนชื่นชอบมาก เด็กไทยทั่วไปจะรู้จัก
การเล่นม้าก้านกล้วยเป็นอย่างดี
เมื่อเลือกใบกล้วยที่มีความยาวพอเหมาะ ก็จะตัดใบกล้วยมา
เอามีดเลาะเอาใบกล้วยออกเหลือไว้ที่ปลายใบเล็กน้อยเพื่อให้เป็นหางม้า
ที่ก้านด้านโคนจะมีขนาดใหญ่เกือบเท่าข้อมือของเด็กๆ ด้านนี้เอง
เด็กๆจะกะความยาวประมาณหนึ่งคืบ หรือสองคืบ
แล้วเอามีดฝานแฉลบด้านข้างของก้านตรงที่กะไว้ฝานบางๆ
ไปทางด้านโคนทั้งสองข้าง เพื่อให้เป็นหูม้า พอได้ขนาดหูยาวตาม
ต้องการแล้วก็เอามือหักก้านกล้วยตรงที่กะจะให้เป็นโคนหูม้า
ก้านกล้วยก็จะกลายเป็นรูปม้ามีหูม้าชันขึ้นทั้งสองข้าง
เสร็จแล้วก็เอาแขนงไม้ใผ่มาเสี้ยมปลายให้แหลม ความยาวประมาณคืบเศษ
เสียบหัวม้าที่พับเอาไว้ เสียบทะลุไปที่ก้าน ไม้ที่เสียบก็จะมีลักษณะเหมือน
สายบังเหียนที่ผูกปากม้ากับคอม้า เสร็จแล้วก็ทำเชือกกล้วยมาผูกด้านหัวม้าและหางม้า
ทำเป็นสายสะพายบ่า แค่นี้ก็เสร็จ หาแขนงไม้ไผ่มา ๑ อัน ทำเป็นแส้ขี่ม้า
ตอนนี้ก็พร้อมที่จะเล่นม้าก้านกล้วยได้แล้ว
หนังสืออ้างอิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น